
ผู้ที่ได้รับเชื้อโรคฉี่หนู เข้าสู่ร่างกายมีตั้งแต่
- ไม่มีอาการ
- มีอาการน้อย
- มีอาการมาก
- อาการรุนแรง
- มีภาวะแทรกซ้อน
- บางรายเป็นอันตรายถึงชีวิต
ส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับเชื้อจะไม่มีอาการ หรือ มีอาการน้อย มีเพียงประมาณ 10-15% ที่จะมีอาการรุนแรง เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือด และกระจายไปยังอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย มีระยะฟักตัวก่อนเกิดอาการเร็วหรือช้า แต่ละคนไม่เท่ากัน บางรายเร็วภายใน 2 วัน บางรายนานหลายสัปดาห์หรือประมาณ 1 เดือน
โดยส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มมีอาการประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังจากรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
อาการของโรคฉี่หนูที่เป็นลักษณะเด่น ๆ จะแบ่งเป็น 2 ระยะ (biphasic pattern) คือ
ระยะแรก
อาการแสดงต่างๆ จะเป็นอาการที่เกิดจากการติดเชื้อโดยตรง ผู้ป่วยจะมี
- อาการไข้สูง
- หนาวสั่น
- ปวดศีรษะ
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- ปวดหลัง
- ปวดหน้าท้อง
- ปวดต้น ขา
- ปวดน่อง
- เจ็บคอ
- เจ็บหน้าอก
- ไอ คลื่นไส้
- อาเจียน
- ตาแดง
- เยื่อบุตาบวม
- มีผื่น
- ต่อมน้ำเหลืองโต
- ตับโต
- ม้ามโต
อาการมักเป็นหลายอย่างๆ ร่วมกันไม่เฉพาะเจาะจงกับอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง คล้าย ๆ กับอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก มาลาเรีย ไข้ไทฟัส เป็นต้น ซึ่งอาการระยะแรกนี้มักจะเป็นอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วอาการจะดีขึ้นแต่หลัง จากนั้น 2-3 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการในระยะที่ 2 ตามมา
ระยะที่สอง
เป็นอาการที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของตนเอง ซึ่งมักทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้หลายอย่าง เช่น
- การเกิดภาวะเยื่อหุ้ม
- สมองอักเสบ
- ตาอักเสบ
- หลอดเลือดอักเสบ
- ปอดอักเสบ
- กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
- เลือดออกในเนื้อปอด
- ตัวเหลืองตาเหลืองหรือภาวะดีซ่าน
- ไตวายเฉียบพลัน
- ภาวะเลือดออกง่ายตามอวัยวะต่างๆ และอาจทำให้อวัยวะต่างๆ ล้มเหลวและเป็นอันตรายถึงชีวิตใน ที่สุด
ควรหลีกเลี่ยงที่น้ำขัง น้ำสกปรก หรือ ควรล้างด้วยน้ำสบู่หลังย่ำน้ำสกปรก หากท่านสงสัยมีอาการของโรคฉี่หนู ควรพบแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อตรวจรักษา