รู้จัก “อะดีโนไวรัส” เชื้อก่อโรคตัวร้าย พบบ่อยในเด็ก

1 พ.ย. 2567 | เขียนโดย โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์

อะดีโนไวรัส (Adenovirus) มักพบบ่อยในเด็กช่วงอายุ 6 เดือน - 5 ปี สามารถก่อให้เกิดโรคได้ในหลายระบบของร่างกาย พบบ่อย ๆ คือ ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร และตา



อะดีโนไวรัส สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ผ่านการสัมผัส การหายใจเอาละอองสารคัดหลั่งที่มีเชื้อ และการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ โดยอะดีโนไวรัสไม่ใช่เชื้ออุบัติใหม่ แต่เป็นเชื้อที่มีมานาน มีความคงทนต่อสภาวะแวดล้อมภายนอกสูง แพร่กระจายง่าย ทำให้เกิดการแพร่ระบาดอยู่เป็นระยะ ๆ

 

อาการของอะดีโนไวรัสในเด็ก

  • ระบบทางเดินหายใจ : ไข้สูง ไอ น้ำมูกไหล คัดจมูก เจ็บคอ เสียงแหบ นอนกรน หายใจหอบ หายใจลำบาก กลืนลำบาก
  • ระบบทางเดินอาหาร : ปวดท้อง ถ่ายเหลว อาเจียน
  • ทางตา : ตาแดง ตาบวม เจ็บตา มีน้ำตาไหล

 

การตรวจวินิจฉัยอะดีโนไวรัส

สามารถตรวจหาได้จากสารคัดหลั่งโดยการป้ายจมูกและคอ หรือการเก็บอุจจาระเพื่อส่งตรวจหาเชื้อ

 

การรักษาอะดีโนไวรัสทำอย่างไร ?

ปัจจุบันอะดีโนไวรัสยังไม่มียาต้านไวรัสจำเพาะ การรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการ ดังนี้

  • การเช็ดตัวลดไข้ ให้ยาลดไข้ ให้ยาลดอาการคัดจมูก ดูดเสมหะและน้ำมูก พ่นยาขยายหลอดลม
  • การให้ออกซิเจนในผู้ป่วยที่มีปอดอักเสบ
  • การให้สารน้ำทดแทนป้องกันการขาดน้ำและเกลือแร่

 

การป้องกันการติดเชื้ออะดีโนไวรัสทำอย่างไร ?

  • ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำสะอาดและสบู่
  • ปิดปากและจมูกเวลาไอ จาม
  • ใส่หน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีคนแออัด หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการป่วย
  • ทำความสะอาดของใช้ต่างๆภายในบ้าน เช่น ของเล่น โต๊ะ เก้าอี้ สม่ำเสมอ
  • ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

 

โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ รามอินทรา โรงพยาบาลเด็กในกรุงเทพฯ พร้อมดูแลรักษาโรคในเด็กอย่างใกล้ชิด โดยกุมารแพทย์เฉพาะทาง

SHARE