
ดูแล ใส่ใจ แนวทางสังเกตอาการภูมิแพ้ในเด็ก สำหรับพ่อแม่มือใหม่
ขึ้นชื่อว่าพ่อแม่มือใหม่ แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายในการที่จะเลี้ยงเด็กคนนึงให้เติบโตมาอย่างแข็งแรง ซึ่งเหตุผลหลัก ๆ เลย คือ ภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่ได้มีสูงมาก ทำให้ไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีเท่ากับผู้ใหญ่ ในที่นี้รวมถึงสภาพอากาศ อาหารการกิน และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ล้วนส่งผลให้เด็กล้มป่วยง่ายกว่าเดิมและเป็นภูมิแพ้กันขึ้นเยอะมาก ๆ โรงพยาบาลเด็ก สินแพทย์จะพาไปดูว่า อาการภูมิแพ้ในเด็ก แต่ละช่วงวัยอาการเป็นอย่างไร มีปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้าง วิธีตรวจสอบว่าลูกน้อยแพ้อะไร วิธีรักษา พร้อมแนวทางการดูแลให้เด็กห่างไกลจากอาการเจ็บป่วยและสุขภาพดี
ภูมิแพ้ในเด็ก อาการเป็นอย่างไร
ภูมิแพ้ในเด็ก สามารถแสดงออกได้ในหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับระบบของร่างกายที่ได้รับผลกระทบและช่วงอายุของเด็ก โดยทั่วไปสามารถแบ่งอาการได้ ดังนี้
เด็กแรกเกิด
เด็กแรกเกิด อาการภูมิแพ้ เกิดขึ้นได้ตั้งแต่เด็กที่มีอายุเพียงไม่กี่เดือน เริ่มจากการแพ้นมวัว ไข่ ถั่วเหลือง แป้งสาลี อาเจียน ท้องเสีย ถ้าเด็กคนไหนเป็นเยอะ จะถ่ายออกมาเป็นเลือดร่วมด้วย ในบางรายเมื่อแพ้นมวัว จะมีผื่นรุนแรง อาการหอบเหนื่อย หรือในเด็กบางคนถ้าหากแพ้รุนแรงมาก ๆ อาจจะช็อกและหมดสติได้ โดยจะยิ่งมีโอกาสแพ้มากขึ้น หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้
เด็กเล็ก
เด็กเล็ก ที่โตขึ้นมาจากเด็กแรกเกิด อาการจะเริ่มชัดเจนขึ้น เด็กอาจมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ แพ้อากาศ เช่น จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล ขยี้ตา ขยี้จมูก จามติด ๆ กันหลายครั้ง หรือมีอาการทางผิวหนัง เช่น ผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ หอบหืด โรคมักเริ่มแสดงอาการในวัยนี้ โดยเด็กจะมีอาการไอ หายใจมีเสียงหวีด หอบเหนื่อย ซึ่งถ้าหากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ จะเป็นการกระตุ้นต่อมทอนซิลและดีนอยด์บริช่องคอ ทำให้คอโต หายใจยาก หลับไม่สนิท นอนกรน และหยุดหายใจ ลุกลามไปปัญหาหัวใจกับปอดได้ ดังนั้นคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ต้องหมั่นคอยสังเกต ถ้าหากพบความผิดปกติ แนะนำให้ไปพบแพทย์ทันที
เด็กโต
เด็กโต อาการของภูมิแพ้จะคล้ายกับผู้ใหญ่ เด็กอาจมีอาการแพ้ทางจมูกอักเสบ (Rhinitis) ซึ่งมีอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คันจมูก หรือมีอาการแพ้ทางตา เช่น คันตา น้ำตาไหล อาการหอบหืดอาจกำเริบได้เมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ หรืออากาศเปลี่ยนแปลง
ภูมิแพ้ในเด็ก มีปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้าง
ภูมิแพ้ในเด็ก มีปัจจัยเสี่ยง 2 ปัจจัยหลัก ๆ คือ พันธุกรรมกับสิ่งแวดล้อม โดยแต่ละปัจจัยมีรายละเอียด ดังนี้
พันธุกรรม
พันธุกรรมในที่นี้หมายถึง ถ้าพ่อหรือแม่เป็นภูมิแพ้ ลูกจะมีโอกาสเป็นภูมิแพ้ร้อยละ 20-40 ถ้าพ่อและแม่เป็นภูมิแพ้ โอกาสของลูกที่เป็นภูมิแพ้จะพุ่งสูงถึงร้อยละ 50-80 โดยภูมิแพ้ที่เป็นนี้อาจจะเป็นชนิดเดียวกันหรือเป็นคนละชนิดก็ได้
สิ่งแวดล้อม
สิ่งแวดล้อม ปัจจัยนี้ผู้ป่วยบางคนไม่ได้มาจากการที่พ่อแม่เป็นภูมิแพ้ แต่มีสาเหตุมาจากการอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสารทำให้เกิดภูมิแพ้อยู่ เช่น แมลงสาบ สัตว์เลี้ยง ไรฝุ่น รวมไปถึงอากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษ หรือในตอนนี้ที่เราต้องเผชิญอย่าง PM2.5 นอกจากนี้การรับประทานอาหารก็เสี่ยงต่อการเป็นโรคดังกล่าวได้ ไม่ว่าจะเป็น นมถั่วเหลือง นมวัว หรือนมแพะ เป็นต้น
วิธีตรวจสอบอาการภูมิแพ้ในเด็ก
วิธีตรวจสอบอาการภูมิแพ้ในเด็ก สามารถทำได้โดยการสอบถามประวัติ การตรวจร่างกาย ถ้าเป็นจมูกอักเสบแนะนำให้ตรวจเลือดเพื่อแปลผล หรือถ้ามีปัญหาผิวหนัง ให้ทดสอบทางผิวหนังเพื่อหาสารภูมิแพ้ โดยเตรียมตัวง่าย ๆ ดังนี้
- งดยาแก้แพ้ 7 วัน ก่อนเข้ามาทดสอบสารก่อภูมิแพ้
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ต้องแจ้งชื่อยาทุกตัวให้แพทย์ทราบล่วงหน้า เพราะยาบางตัวจำเป็นที่จะต้องงดก่อนเช่นเดียวกัน
- งดยาสเตียรอยด์ที่ทาบริเวณผิวหนัง เพราะอาจจะทำให้ผลทดสอบคลาดเคลื่อน
- ไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืองดอาหาร ก่อนที่จะเข้ามาทดสอบ
ภูมิแพ้ในเด็ก รักษาได้ยังไง
ภูมิแพ้ในเด็ก วิธีที่รักษาได้ง่ายที่สุด คือ การเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ยาก ให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาแก้แพ้ หรือยาพ่นจมูก ในรายที่มีการอักเสบของจมูกร่วมด้วย
วิธีดูแลลูกน้อยให้ไม่เป็นภูมิแพ้
วิธีดูแลลูกน้อยให้ไม่เป็นภูมิแพ้ สามารถทำได้โดย
- ห้องนอนควรมีเฉพาะของที่จำเป็น ไม่ควรมีสิ่งของอื่น ๆ เพราะอาจจะกลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นได้
- ทำความสะอาดชุดเรื่องนอน ผ้าม่านที่บ้าน และเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ
- ทำความสะอาดเศษอาหารหรือขยะที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของสัตว์ เช่น แมลงสาบ มด และหนู เป็นต้น
- ไม่ควรสูบบุหรี่ในบ้าน หรือในบริเวณที่มีเด็กอยู่
- เด็กคนไหนมีโรคประจำตัว อย่างหอบหืด ควรพาไปออกกำลังกาย หากมีอาการกำเริบ แนะนำให้พาไปพบแพทย์ เพื่อช่วยในการควบคุมอาการหอบ และรักษาให้ดีขึ้น
สรุป
ภูมิแพ้ในเด็กเป็นภาวะที่สามารถรักษาและป้องกันได้ การดูแลลูกน้อยอย่างเหมาะสมตั้งแต่แรกเกิด การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ การรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และการปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและรักษาภูมิแพ้ในเด็ก