โรคใบหน้ากระตุกครึ่งซีก ( Hemifacial spasm)
เป็นโรคที่มีการกระตุกของกล้ามเนื้อใบหน้ารอบกระบอกตาและมุมปากด้านใดด้านหนึ่ง เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทคู่ที่ 7 ที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อใบหน้า สามารถเจอได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย แต่มักเจอบ่อยในวัยกลางคน อาการมักเป็นมากขึ้นเวลาเครียดหรืออดนอน ระดับความรุนแรงของโรคมีได้ตั้งแต่รุนแรงน้อย โดยมีแค่การกระตุของกล้ามเนื้อรอบดวงตาหรือมุมปากเป็นครั้งๆ จนถึงรุนแรงมากโดยทำให้เกิดการดึงรั้งของกล้ามเนื้อใบหน้าจนส่งผลต่อการมองเห็นได้
สาเหตุของโรคใบหน้ากระตุกครึ่งซีก: พบได้ทั้งแบบที่ไม่มีสาเหตุ หรือ อาจเกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทคู่ที 7 ที่อาจโดนกดเบียดทับจากเส้นเลือดที่ออกมาจากก้านสมอง หรือจากเนื้องอกสมองก็ได้ บางรายเกิดขึ้นตามหลังภาวะการถูกทำลายของเส้นประสาท เช่น จากอุบัติเหตุ หรือหลังจากเป็นโรคใบหน้าเป็นอัมพาตครึ่งซีก
การรักษา : จำเป็นต้องรักษาตามสาเหตุที่เป็นในกลุ่มที่มีสาเหตุชัดเจน ส่วนการลดภาวะกระตุกของใบหน้า สามารถรักษาได้หลายวิธี
- การใช้ยา ปัจจุบันมียาหลายกลุ่มที่นำมาใช้รักษาโรคใบหน้ากระตุกครึ่งซีกเช่น ยานอนหลับกลุ่ม clonazepam หรือยากันชักบางประเภท
- การฉีดโบท็อกซ์ถือเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าการรักษาด้วยยา โดยประสิทธิภาพการออกฤทธิ์จะเริ่มเห็นผลหลังฉีดไปได้ 10-14 วันและคงฤทธิ์อยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน ทั้งนี้ขึ้นกับปริมาณและระยะเวลาที่ผู้ป่วยได้ใช้โบท็อกซ์ด้วย โดยเราสามารถหลีกเลี่ยงภาวะดื้อต่อโบท็อกซ์ได้ โดยการใช้โบท็อกซ์ของแท้ โดยใช้ปริมาณเท่าที่จำเป็น และไม่ควรฉีดซ้ำในช่วงเวลาห่างกันน้อยกว่า 3 เดือน ทั้งนี้อาจมีผลข้างเคียงหลังฉีดได้ เช่น ตาแห้งหรือหนังตาตก
- การผ่าตัด สามารถทำได้ในกลุ่มที่มีการกดเบียดของหลอดเลือดบริเวณก้านสมอง เข้าไปแยกเส้นเลือดออกจากเส้นประสาทโดยใช้แผ่น Teflon คั่นกลางเอาไว้ เรียกว่าวิธี microvascular decompression ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงจากการผ่าตัดที่อาจจะเกิดได้เช่น เกิดอัมพาตของใบหน้าหรือมีปัญหาการได้ยินในข้างที่ได้รับการผ่าตัด