แบคทีเรียกินคนจริงหรือ ?

29 พ.ค. 2563 | เขียนโดย พญ.ร่มเย็น ศักดิ์ทองจีน ศูนย์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา

โรคแบคทีเรียกินเนื้อ (flesh-eating disease  หรือ necrotizing fasciitis)  เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่หลุดลอดผ่านเข้าชั้นผิวหนังที่ผิดปกติ เช่น รอยถูกแมลงกัด รอยแกะเกา รอยถูกของมีคม หรือ รอยกระทบกระแทก ฟกช้ำต่าง ๆ จากนั้นแบคทีเรียจะเกาะกลุ่มกันเติบโต ทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบ ๆ และหากแบคทีเรียมีพิษมากจะยิ่งทำให้การอักเสบลุกลามได้เร็วและเป็นวงกว้าง จนเกิดเนื้อตายขึ้น ซึ่งหากแบคทีเรียลงไปชั้นใต้ผิวหนังได้กว้างและลึกมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งก่อให้เกิดความเสียหายได้มากขึ้นเท่านั้น อาจลุกลามเข้ากระแสเลือด และอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้



นั่นก็คือ  โรคแบคทีเรียกินเนื้อ  “flesh-eating disease” เรามารู้จักกับโรคนี้กันว่าคือโรคอะไรกันแน่…

 

โรคแบคทีเรียกินเนื้อ (flesh-eating disease  หรือ necrotizing fasciitis)  เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่หลุดลอดผ่านเข้าชั้นผิวหนังที่ผิดปกติ เช่น รอยถูกแมลงกัด รอยแกะเกา รอยถูกของมีคม หรือ รอยกระทบกระแทก ฟกช้ำต่าง ๆ จากนั้นแบคทีเรียจะเกาะกลุ่มกันเติบโต ทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบ ๆ และหากแบคทีเรียมีพิษมากจะยิ่งทำให้การอักเสบลุกลามได้เร็วและเป็นวงกว้าง จนเกิดเนื้อตายขึ้น ซึ่งหากแบคทีเรียลงไปชั้นใต้ผิวหนังได้กว้างและลึกมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งก่อให้เกิดความเสียหายได้มากขึ้นเท่านั้น อาจลุกลามเข้ากระแสเลือด และอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้

 

แบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคนี้บ่อยๆ ในคนทั่วไป ได้แก่ Staphylococcus aureus ซึ่งอุณหภูมิที่เชื้อตัวนี้เจริญเติบไตได้ดี คือ ประมาณ 15 – 45 องศาเซลเซียส จึงพบได้บนร่างกายของคนเรา โดยเฉพาะบนผิวหนัง โพรงจมูก เยื่อบุทางเดินหายใจ และพบได้ในสิ่งแวดล้อมทั่วไปด้วย

 

การรักษา

โรคนี้สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเอาหนองและเนื้อตายบริเวณที่มีการติดเชื้อออก ร่วมกับการให้ยาปฏิชีวนะที่ครอบคลุมเชื้อ ยิ่งได้รับการรักษารวดเร็วเท่าไร ผลการรักษายิ่งดีขึ้นเท่านั้น

 

มีวิธีป้องกันโรคนี้อย่างไร ?

โรคนี้ป้องกันได้โดย การป้องกันไม่ให้ผิวหนังมีบาดแผล ถ้าผิวหนังมีบาดแผลเกิดขึ้นควรรีบทำความสะอาด และถ้าแผลมีอาการบวมแดงอักเสบควรรีบมาพบแพทย์ให้เร็วที่สุด ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้

 

แมลงกินเนื้อคน จริงหรือไม่ ?

แมลงไม่ได้เป็นพาหะของแบคทีเรียชนิดนี้ แต่เมื่อถูกแมลงกัด ทำให้ผิวหนังมีรอยแผลเล็ก ๆ รวมถึงอาการคัน ทำให้เกาและมีแผลถลอกมากขึ้น เป็นเหตุให้แบคทีเรียหลุดลอดผ่านชั้นผิวหนังเข้าไปก่อโรคได้

SHARE