
คนไข้เพศชาย อายุ 60 ปี มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงมานานแล้ว รักษาและกินยามาโดยตลอด โดยทั่วไปสุขภาพแข็งแรงดี ทำงานขับรถบรรทุกวิ่งส่งสินค้าได้ในระยะทางไกลๆ ไม่เคยมีปัญหา
“เมื่อสัก 2 เดือนก่อน เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีอาการเหนื่อยง่าย โดยสังเกตจากเวลาเดินขึ้นบันได แต่ก่อนเดินขึ้น 2-3 ชั้น รวดเดียวได้ แต่เริ่มมีอาการนี้เหนื่อยมากต้องหยุดพักระหว่างขึ้น ต้องพักสัก 5 นาที จึงจะเดินต่อได้ ต่อมาอาการเหนื่อยก็เริ่มเป็นมากขึ้น ต้องหยุดพักนานขึ้น บางทีต้องพักเกือบ 30 นาที ถึงจะหาย ต้องหาที่นั่งพักเลยเดินต่อไม่ไหว ไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งก็ว่าไม่เป็นอะไร ให้ยามากินนิดหน่อย ก็ไม่ดีขึ้น อาการเหนื่อยง่ายก็ยังมีอยู่ตลอด บางครั้งเวลาขับรถส่งของอยู่ น่าจะมีความเครียดมากขึ้นด้วย ก็ยิ่งเหนื่อยมากขึ้น บางทีมีอาการแน่นๆตรงหน้าอก เหมือนใจจะขาดต้องจอดรถพักสักหน่อย อาการก็ทุเลาลงพอขับต่อก็เป็นอีก จึงคิดว่าน่าจะต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ เลยมาหาคุณหมอที่ รพ.สินแพทย์ ซึ่งเป็นคุณหมอที่ผมและครอบครัวไว้วางใจ มารักษาด้วยตลอด คุณหมอแนะนำให้ตรวจสุขภาพหัวใจ 3 รายการ คือทำ EKG , Echo และวิ่งสายพาน ผล EKG ปกติ แต่ผล Echo คุณหมออายุรแพทย์โรคหัวใจ ที่ทำการตรวจให้บอกว่า น่าจะมีปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบแน่ๆ คราวนี้ตอนตรวจวิ่งสายพาน ผมวิ่งได้แค่ 3 นาที ก็เหนื่อย เหนื่อยมากที่สุดในชีวิต เหมือนใจจะขาดให้ได้ จนต้องหยุดวิ่งทันที (ปกติคนอื่นจะวิ่งได้เกิน 10 นาที) คุณหมอสุกิจบอกว่า อาการแบบนี้เป็นอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบแน่นอน น่าจะต้องทำการตรวจให้ละเอียดเพิ่มเติม โดยสวนหัวใจ เพราะปล่อยไว้อันตรายแน่ๆ ผมและครอบครัวตัดสินใจทำการตรวจรักษาต่อทันทีในวันนั้น ซึ่งก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร คุณหมอพาเข้าห้องสวนหัวใจ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างดี พบว่าหลอดเลือดหัวใจตีบจริงๆ และคุณหมอก็ได้ทำการใส่ขดลวดเพื่อขยายหลอดเลือดหัวใจ เปิดทางให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ในคราวเดียวกันด้วย ตอนนี้ผ่านการสวนหัวใจมา 1 เดือน อาการผมดีขึ้นมากกว่า 80% ไม่มีอาการเหนื่อยง่ายเหมือนเดิมแล้ว ความรู้สึกคือเหมือนผมได้ชีวิตใหม่กลับคืนมา”
“ผู้ป่วยเบาหวาน เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน แม้จะไม่มีอาการแบบคุณสนธยาก็ควรตรวจเช็คหัวใจตามที่คุณหมอแนะนำ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นลมหมดสติ หรือเสียชีวิตกะทันหันจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ในโอกาสนี้ก็ขอขอบคุณคนไข้ ที่สละเวลามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆ ด้วย”
“หากพบว่ามีอาการแน่นตรงกลางหน้าอก ในบางคนอาจปวดร้าวไปที่กราม หรือหัวไหล่ แน่นหน้าอกขณะออกแรง หรือออกกำลังกาย ร่วมกับเหงื่อแตก ใจสั่น หรือหน้ามืด อาการดังกล่าว อาจเป็นอาการเตือนของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้ โดยเฉพาะที่มีความเสี่ยงจะเป็นโรคนี้สูง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง สูบบุหรี่ ผู้สูงอายุ ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมโดยเร็ว”
ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ ศูนยหัวใจ สาขาใกล้บ้านคุณ