โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา และโรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ นำร่องโรงพยาบาลในเครือทั้ง 6 สาขา เปิดคลินิกพิเศษตรวจหวัดแยกอาคาร พร้อมเปิดตรวจโควิด-19 แบบไดรฟ์ธรู เปิดอาคารคลินิกปลอดเชื้อสำหรับเด็ก และคลินิกสุขภาพเด็กดี สำหรับพัฒนาการเด็กและวัคซีน เพื่อลดการแพร่เชื้อภายในโรงพยาบาล เพิ่มความมั่นใจในการมาโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยทั่วไป
‘สินแพทย์’ ตอกย้ำความใส่ใจ ช่วงโควิด-19 ชูมาตรการแยกอาคารปลอดเชื้อ
แพทย์เตือน ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต้องรับการรักษาต่อเนื่อง เด็กไม่ควรขาดวัคซีนตามพัฒนาการ
โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา และโรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ นำร่องโรงพยาบาลในเครือทั้ง 6 สาขา เปิดคลินิกพิเศษตรวจหวัดแยกอาคาร พร้อมเปิดตรวจโควิด-19 แบบไดรฟ์ธรู เปิดอาคารคลินิกปลอดเชื้อสำหรับเด็ก และคลินิกสุขภาพเด็กดี สำหรับพัฒนาการเด็กและวัคซีน เพื่อลดการแพร่เชื้อภายในโรงพยาบาล เพิ่มความมั่นใจในการมาโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยทั่วไป
โรงพยาบาลสินแพทย์ ห่วงใยในสถานการณ์โควิด-19 แนะนำผู้ป่วยโรคเรื้อรังควรเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เด็กที่มีความจำเป็นด้านพัฒนาการสมวัยไม่ควรขาดการพบแพทย์ตามนัด นำร่องเปิดตัวบริการใหม่ที่รพ.สินแพทย์ รามอินทรา จากความใส่ใจต่อผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลทุกคน ทั้งคลินิกพิเศษตรวจหวัดและบริการตรวจโควิด-19 แบบไดรฟ์ธรู ซึ่งเปิดอาคารใหม่สำหรับคลินิกดังกล่าวโดยเฉพาะ ด้านโรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ แยกพื้นที่ปลอดเชื้อสำหรับเด็กที่เข้ารับวัคซีน และแยกอาคาร คลินิกปลอดเชื้อ สำหรับเด็กป่วยทั่วไป แยกออกจากเด็กป่วยโรคหวัด รวมถึงเพิ่มมาตรการความปลอดภัยและความสะอาด ลดโอกาสติดเชื้อ สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลสินแพทย์ เริ่มนำร่องให้บริการที่โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป
นายแพทย์พิสุทธิ์ พรหมลิขิตชัย ผู้อำนวยการสายแพทย์และกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสินแพทย์ กล่าวถึงมาตรการรับมือสถานการณ์โควิด-19 ของโรงพยาบาลสินแพทย์ ว่า “โรงพยาบาลในกลุ่มสินแพทย์ทั้ง 6 สาขา คือ รพ.สินแพทย์ รามอินทรา รพ.เด็กสินแพทย์ รพ.สินแพทย์ ศรีนครินทร์ รพ.สินแพทย์ เทพารักษ์ รพ.สินแพทย์ ลำลูกกา และรพ.เสรีรักษ์ ยึดมั่นในวิสัยทัศน์ เบื้องหลังทุกการรักษาคือความใส่ใจ ในสถานการณ์โควิด-19 ที่สร้างความกลัวและตื่นตระหนกในหมู่ประชาชนส่วนใหญ่ ทำให้คนไข้หลายคนเลือกที่จะไม่เข้ารับการรักษาและติดตามโรคประจำตัวเดิมที่เป็นอยู่แล้วหรือโรคใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น เพียงเพราะกลัวว่าโรงพยาบาลจะเป็นจุดแพร่กระจายเชื้อ แต่กลับมองข้ามผลเสียที่จะตามมาหากไม่ได้เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลสินแพทย์จึงมุ่งสร้างความมั่นใจและหวังว่าจะสร้างความสบายใจให้คนไข้ เป็นที่พึ่งทั้งทางกายและทางใจแก่ผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลให้ดีที่สุด ประกอบกับคำแนะนำจากกรมควบคุมโรคเกี่ยวกับมาตรการการแยกพื้นที่ในโรงพยาบาลให้ชัดเจนเพื่อลดโอกาสการสัมผัสเชื้อ โรงพยาบาลสินแพทย์จึงตอบรับมาตรการดังกล่าว โดยแบ่งโซนในโรงพยาบาลเป็น 2 ส่วนคือ Influenza-like Zoning คือโซนที่ดูแลผู้ป่วยที่มีอาการติดเชื้อหวัด และ Clean Zoning คือโซนที่ดูแลผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่ไม่มีอาการหวัดหรือผู้มาตรวจเช็คสุขภาพ โดยได้จัดพื้นที่ดังกล่าวในโรงพยาบาลทั้งส่วนคนไข้ผู้ใหญ่และโรงพยาบาลเด็ก สำหรับคลินิกผู้ใหญ่ได้แยกอาคารสำหรับโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เป็นคลินิกพิเศษตรวจหวัดแบบ Drive-thru Clinic ในอาคารนี้ให้บริการเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจแบบ One-stop Service และสามารถตรวจตรวจโควิด-19 แบบไดรฟ์ธรู (Drive-thru) ด้านโรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ได้จัดแยกพื้นที่ปลอดเชื้อ (Clean Zoning) ออกจากพื้นที่เด็กป่วยโรคหวัด ในพื้นที่ปลอดเชื้อนี้มีให้บริการ Well Baby Clinic หรือคลินิกสุขภาพเด็กดี สำหรับบริการด้านพัฒนาการเด็กและการฉีดวัคซีนตามวัย และคลินิกปลอดเชื้อสำหรับโรคทั่วไปที่ไม่ใช่โรคหวัด ให้มีทางเข้าและที่จอดรถแยกส่วนกับคลินิกเด็กที่มีโรค รวมถึงในทุกอาคารที่เปิดใหม่จะมีพื้นที่จอดรถแยกชัดเจนแต่ละอาคาร เพื่อแยกพื้นที่ปลอดเชื้อได้อย่างทั่วถึง”
คลินิกปลอดเชื้อคลินิกพิเศษตรวจหวัด เป็นอาคารใหม่แยกออกมาจากอาคารหลักของโรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ห่างประมาณ 100 เมตร บริการตรวจรักษาผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ไอ หอบ หรืออาการของหวัด สามารถมาพบแพทย์ ตรวจรักษาและรับการจัดยาโดยแพทย์อายุรกรรมและแพทย์หูคอจมูก แบบ One-stop Service ตั้งแต่จอดรถ จนถึงรับยา-ชำระเงิน รวมถึงในอาคารนี้สามารถเจาะเลือด ตรวจสารคัดหลั่ง และเอ็กซ์เรย์ปอดได้ โดยไม่ต้องกลับเข้าไปในอาคารหลักของโรงพยาบาล มีห้องพักรอและห้องตรวจที่จัดพื้นที่แบบเว้นระยะห่าง มีระบบปรับอากาศและระบายอากาศที่เป็นมาตรฐานพิเศษ คือระบบ 12-Air Exchange หรือระบบหมุนเวียนอากาศแบบแทนที่ด้วยอากาศสะอาด 12 ครั้งต่อชั่วโมง (ทุกๆ 5 นาที) สำหรับคนไข้ที่ไม่สะดวกนั่งรอในห้องพักรอ สามารถนั่งรอบนรถส่วนตัวที่สถานที่จอดรถในบริเวณคลินิก และจะมีเจ้าหน้าที่แจ้งคิวที่รถหรือทางโทรศัพท์เมื่อถึงเวลาเข้าตรวจ สำหรับคลินิกพิเศษตรวจหวัด เปิดบริการทุกวัน เวลา 8:00–20:00 น.
Covid-19 Drive-thru Test บริการตรวจโรคโควิด-19 แบบไม่ต้องลงจากรถ ตั้งอยู่ที่อาคารคลินิกพิเศษตรวจหวัด โดยผู้ที่ไม่มีอาการไข้ ไอ หวัด และต้องการรับการตรวจ สามารถเข้ากระบวนการตรวจได้ทันทีโดยไม่ต้องพบแพทย์ ทุกกระบวนการสะดวก รวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องลงจากรถ หรือหากเจ้าหน้าที่พบอาการเข้ากลุ่มเสี่ยงโรค โควิด-19 ผู้รับการตรวจจะได้พบแพทย์ที่คลินิกพิเศษตรวจหวัดทันที สำหรับระบบห้องปฏิบัติการวินิจฉัยโรคโควิด-19 ของโรงพยาบาลสินแพทย์ ได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สามารถตรวจโรคได้จบทุกกระบวนการที่โรงพยาบาลสินแพทย์โดยไม่ต้องส่งต่อไปที่ห้องปฏิบัติการอื่น ทำให้สามารถทราบผลการตรวจได้รวดเร็วภายใน 1-2 วัน โดยเจ้าหน้าที่จะแจ้งผลการตรวจทาง SMS หรืออีเมล์ที่ลงทะเบียนไว้ ค่าบริการตรวจครั้งละ 6,500 บาท เปิดบริการทุกวันเวลา 8:00-17:00 น.
พิเศษ รับส่วนลด 10% ค่าบริการตรวจโรคโควิด-19 สำหรับผู้ที่กลับมาตรวจอีกครั้ง และโปรโมชั่นแพ็กเกจ ตรวจ 2 ท่าน ราคา 12,000 บาท (จากราคาเต็ม 13,000 บาท) และแพ็กเกจตรวจ 3 ท่าน ราคา 17,900 บาท (จากราคาเต็ม 19,500 บาท) รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ทุกช่องทางติดต่อ
โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ มีการจัดพื้นที่บริการใหม่ทั้งหมด โดยแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน คือ 1)โซนสำหรับเด็กป่วยโรคหวัด 2)คลินิกสุขภาพเด็กดี (Well Baby Clinic) สำหรับเด็กที่มารับการฉีดวัคซีนตามนัด ตรวจด้านพัฒนาการ โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคของต่อมไร้ท่อ หนุ่มสาวก่อนวัย แก้ปัญหาส่วนสูง ฯลฯ และ 3)คลินิกปลอดเชื้อ ซึ่งแยกอาคารออกมาจากโรงพยาบาลเด็ก เพื่อเป็นที่ตรวจรักษาเด็กป่วยที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ ประกอบด้วยศูนย์รักษาโรคต่างๆ ได้แก่ ศูนย์โรคลมชัก ศูนย์โรคผิวหนัง ศูนย์ระบบทางเดินอาหาร ศูนย์โรคเลือด ศูนย์โรคไต และศูนย์ทันตกรรม สำหรับคลินิกสุขภาพเด็กดีและอาคารคลินิกปลอดเชื้อได้จัดแยกทางเข้า และที่จอดรถแยกจากส่วนอื่น เพื่อให้ผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมาพบแพทย์ตามนัด ได้มั่นใจในความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการสัมผัสรับเชื้ออื่นๆ เปิดบริการทุกวัน เวลา 8:00-20:00 น.
สำหรับผู้ใหญ่ที่มีโรคประจำตัว นายแพทย์พิสุทธิ์ พรหมลิขิตชัย ได้กล่าวถึงความเสี่ยงและคำแนะนำว่า “ผู้ใหญ่ที่ป่วยเป็นโรคประจำตัว ควรจะต้องได้การรักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากแต่ละโรคจะอันตรายต่อร่างกายแล้ว ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวโดยเฉพาะโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต มีโอกาสติดโรคโควิด-19 ได้ง่ายกว่าและมีอาการรุนแรงกว่าคนปกติ อาทิ ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่น้ำตาลในเลือดสูงควบคุมไม่ดี ถ้าได้รับเชื้อโควิด-19 จะมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าคนปกติหลายเท่า ส่วนโรคหัวใจ ความดัน กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เป็นโรคที่ต้องมารับการรักษาตามนัดเป็นประจำ เพราะถ้าไม่รักษา อัตราการเสียชีวิตสูงเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มคนไทย ซึ่งสูงกว่าเปอร์เซ็นต์การเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เสียอีก
“ตั้งแต่ช่วงเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมที่ผ่านมา สถิติการมารับการรักษาที่โรงพยาบาลของผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง รวมถึงผู้ป่วยโรคทั่วไปลดลง เนื่องจากผู้ป่วยกังวลถึงสถานการณ์โควิด-19 จนมองข้ามอาการป่วยของตนเอง โรงพยาบาลสินแพทย์กังวลและเป็นห่วงในอาการของผู้ป่วย และเข้าใจในความกังวลดังกล่าว จึงมีมาตรการแยกส่วนปลอดเชื้อไว้อย่างชัดเจน ลดโอกาสการสัมผัสเชื้อให้น้อยที่สุด เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถมาโรงพยาบาลได้อย่างสบายใจและรับการรักษาได้ตามปกติ”
สำหรับผู้ป่วยเด็ก นายแพทย์ชาตรี เรืองฤทธิ์นำชัย กุมารแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ กล่าวว่า “ไม่ควรมองข้ามการมาพบแพทย์เช่นเดียวกันกับผู้ใหญ่ การที่เด็กได้มาพบแพทย์ตามนัดมีผลต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของเด็กอย่างมาก ที่ผ่านมาผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังพาบุตรหลานมารับวัคซีนและรับการรักษาเกี่ยวกับพัฒนาการเด็กที่โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ปกครองสามารถสบายใจ และมั่นใจในความปลอดภัยที่มีต่อผู้ปกครองเองและตัวเด็กได้ เพราะมีการแยกพื้นที่ทางเข้า-ออกโรงพยาบาลสำหรับเด็กป่วยโรคหวัด และพื้นที่ปลอดเชื้ออย่างเป็นสัดส่วน ลดโอกาสที่เด็กจะสัมผัสเชื้อและติดเชื้อให้น้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม อาการโรคโควิด-19 ในเด็กมักไม่รุนแรงและอันตรายเท่าผู้ใหญ่ ถ้าหากเด็กได้รับเชื้อแล้วส่วนใหญ่สามารถหายได้เอง แต่เมื่อเด็กมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดก็ไม่ควรมองข้าม ควรพามาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่เริ่มมีอาการ เพราะกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงไม่ใช่เด็ก แต่เป็นผู้สูงอายุที่อาจอยู่ใกล้ชิดกับเด็ก ซึ่งถ้าหากเด็กได้รับเชื้อโรคโควิด-19 แล้ว อาจแพร่ไปสู่ผู้สูงอายุ เด็กอาจจะไม่มีอาการและหายได้ด้วยตัวเอง แต่ผู้ใหญ่อาจเป็นอันตรายจากการรับเชื้อได้”
นายแพทย์ชาตรี มีคำแนะนำต่อผู้ปกครองที่ต้องดูแลเด็กๆ ว่า “ในช่วงที่มีการรณรงค์เว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้เด็กๆ ต้องอยู่ในบ้านไม่สามารถออกไปโรงเรียน ทำกิจกรรมร่วมกับเด็กในวัยเดียวกันได้ ถ้าหากในระยะสั้น การเล่นกับคนในครอบครัวก็ยังสามารถทดแทนได้และไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากยังมีการปิดโรงเรียนต่อไปในระยะยาวขึ้น อาจมีผลกระทบต่อพัฒนาการทางสังคมของเด็ก เบื้องต้นให้ผู้ปกครองช่วยดูแลและอยู่ด้วยกันอย่างใกล้ชิด เด็กอาจเล่นเกมได้ แต่ก็ควรให้มีกิจกรรมที่ได้ปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างด้วย เช่น การเล่นกับคุณพ่อคุณแม่ เดินออกกำลังกายร่วมกันในครอบครัว เป็นต้น”
นอกจากนี้ นายแพทย์พิสุทธิ์ พรหมลิขิตชัย ยังได้แนะนำแนวทางการปฏิบัติเมื่อต้องมาโรงพยาบาลในสถานการณ์โควิด-19 ช่วงนี้ คือการสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเพื่อลดโอกาสรับ-แพร่เชื้อ เมื่อมาโรงพยาบาลให้มีผู้ติดตามน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น และเมื่ออยู่บ้านขอให้ออกกำลังกายให้เหมาะสม อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง รวมถึงถ้าเป็นไปได้ ให้ออกกำลังกายกลางแจ้งในช่วงเช้า เพื่อสร้างวิตามิน D จากแสงแดด ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงขึ้น ลดโอกาสการเจ็บป่วยได้ และถึงแม้ว่าโรคระบาดครั้งนี้จะบรรเทาลงแล้ว แพทย์ก็ยังแนะนำให้ปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคอย่างต่อเนื่องให้เป็นกิจวัตร ทั้งการเว้นระยะห่าง การดูแลตัวเองเมื่อมีอาการไอ-จาม รวมถึงการดูแลสุขภาพด้วย
สำหรับโรงพยาบาลสินแพทย์ เป็นโรงพยาบาลที่พร้อมให้บริการรักษาในทุกสาขา ดำเนินการมาแล้วกว่า 28 ปี ภายใต้แนวคิด “เบื้องหลังทุกการรักษาคือความใส่ใจ” โรงพยาบาลสินแพทย์จึงมีความตั้งใจที่จะดูแลรักษาคนไข้ให้มากกว่าการรักษาโรค คือการดูแลรักษาใจของคนไข้ด้วย ปัจจุบันมีโรงพยาบาลในกลุ่มสินแพทย์ทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ รามอินทรา โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์ โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์ โรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา และโรงพยาบาลเสรีรักษ์ สำหรับบริการคลินิกพิเศษและมาตรการแบ่งพื้นที่ปลอดเชื้อ จะเริ่มนำร่องที่โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา และ โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ รามอินทรา ในช่วงเดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป และจะดำเนินการมาตรการเหล่านี้ที่ทุกสาขาในอนาคต โรงพยาบาลในกลุ่มสินแพทย์ทุกแห่ง ขอยืนยันที่จะรักษาทุกอาการป่วยของทุกคน พร้อมดูแลทั้งสุขภาพกาย-ใจและยืนหยัดอยู่เคียงข้างก้าวผ่านสถานการณ์นี้ด้วยความใส่ใจที่สินแพทย์ยึดมั่นเสมอมา