มะเร็งตับเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับต้นๆในประชากร โดยพบได้ในเพศชายบ่อยกว่าเพศหญิง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ตรวจพบมักมีการดำเนินโรคอยู่ในระยะหลังๆ ที่ไม่สามารถรักษาได้แล้วจนนำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้นเราควรทราบถึงปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งตับเพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงไม่ให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค และทราบถึงอาการที่ต้องเฝ้าระวัง เมื่อมีอาการที่สงสัยควรมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที
มะเร็งตับเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับต้นๆในประชากร โดยพบได้ในเพศชายบ่อยกว่าเพศหญิง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ตรวจพบมักมีการดำเนินโรคอยู่ในระยะหลังๆ ที่ไม่สามารถรักษาได้แล้วจนนำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้นเราควรทราบถึงปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งตับเพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงไม่ให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค และทราบถึงอาการที่ต้องเฝ้าระวัง เมื่อมีอาการที่สงสัยควรมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งตับมีอะไรบ้าง ?
- โรคตับแข็งจากทุกสาเหตุ
- โรคไวรัสตับอักเสบ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบบีมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับสูงกว่าคนที่ไม่เป็นพาหะ 100- 300 เท่า
- การดื่มแอลกอฮอล์ ปริมาณแอลกฮอล์ที่ดื่มมากขึ้นจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับมากขึ้น
- การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษอะฟลาท็อกซิน
- ภาวะธาตุเหล็กสะสมที่ตับ
- ความอ้วน โรคเบาหวาน
- การได้รับยาหรือสารอื่นๆที่มีพิษต่อตับ เช่น สารกำจัดศัตรูพืช
- ผู้ที่มีประวัติญาติสายตรงในครอบครัวเป็นมะเร็งตับ
มะเร็งตับมีอาการอย่างไร ?
ผู้ที่เป็นมะเร็งตับในระยะแรกๆอาจยังไม่มีอาการแสดงใดๆ แต่เมื่อขนาดของก้อนมะเร็งใหญ่ขึ้น ผู้ป่วยอาจมีอาการต่างๆดังต่อไปนี้
- เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย
- ปวดท้องใต้ชายโครงขวา
- คลำพบก้อนที่ใต้ชายโครงขวา
- จุกแน่นท้อง ท้องโตขึ้น
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ตัวเหลืองตาเหลือง
- น้ำหนักตัวลดอย่างรวดเร็ว
พบแพทย์เฉพาะทาง คลินิกอายุรกรรมทางเดินอาหารและตับ
ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ สาขาใกล้บ้านคุณ
(คลิก link เพื่อนัดพับแพทย์เฉพาะทาง)