รับประทานอาหารอย่างไรเมื่อไตเสื่อม?

26 พ.ค. 2563 | เขียนโดย ศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา

ความสำคัญของอาหารที่มีผลต่อผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง การควบคุมอาหารอย่างถูกต้อง ตั้งแต่ระยะแรกของโรคจะช่วยชะลอความเสื่อมของไตอย่างได้ผลดียิ่งกว่าในระยะที่โรครุนแรง โดยรับประทานอาหารที่มีโปรตีนต่ำ ซึ่งจะมีผลให้ของเสีย (เช่น ยูเรีย) มีปริมาณน้อยลงไตส่วนที่เหลือก็จะได้ทำงานเบาลง



ความสำคัญของอาหารที่มีผลต่อผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง

การควบคุมอาหารอย่างถูกต้อง ตั้งแต่ระยะแรกของโรคจะช่วยชะลอความเสื่อมของไตอย่างได้ผลดียิ่งกว่าในระยะที่โรครุนแรง โดยรับประทานอาหารที่มีโปรตีนต่ำ ซึ่งจะมีผลให้ของเสีย (เช่น ยูเรีย) มีปริมาณน้อยลงไตส่วนที่เหลือก็จะได้ทำงานเบาลง

 

1.พลังงาน

ความเพียงพอในด้านพลังงานนับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ร่างกายได้รับพลังงานมาจากอาหารที่รับประทาน อาหารที่ให้พลังงานพอเพียงจะช่วยป้องกันภาวะทุพโภชนาการ และช่วยให้ร่างกายใช้โปรตีนที่ถูกจำกัดจากอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในคนที่อายุต่ำกว่า 60 ปี ควรได้รับพลังงาน 35 กิโลแคลอรี่ต่อกิโลกรัมน้ำหนักที่เหมาะสมต่อวัน ส่วนผู้ป่วยที่อายุสูงกว่า 60 ปี ควรได้รับพลังงาน 30 กิโลแคลอรี่ต่อกิโลกรัมน้ำหนักที่เหมาะสมต่อวัน

 

2.โปรตีน

โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นในการสร้างและซ่อมแซมส่วนสึกหรอของกล้ามเนื้อต่างๆ ของร่างกาย โปรตีนที่รับประทานเข้าไป นอกจากนำไปใช้แล้วยังก่อให้เกิดของเสีย หรือขยะตามมาด้วย ซึ่งไตจะทำหน้าที่ในการขจัดของเสียที่เกิดขึ้น ถ้ารับประทานโปรตีนมากเกินไป ก็จะทำให้ไตต้องทำงานหนักมากขึ้น สำหรับผู้ที่มีไตเสื่อมก็จะทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น ในทางกลับกันถ้ารับประทานน้อยเกินไป ก็จะเกิดภาวะขาดสารอาหาร

ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังควรได้รับอาหารโปรตีนต่ำ เพื่อชะลอการเสื่อมของไต โดยกำหนดระดับอาหารโปรตีนที่ผู้ป่วยควรได้รับต่อวัน ดังนี้

  • ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตเรื้อรังระยะที่ 1 – 3 ควรได้รับโปรตีน 0.6 – 0.8 กรัม / กิโลกรัมน้ำหนักตัวที่เหมาะสม
  • ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตเรื้อรังระยะที่ 4 – 5 ควรได้รับโปรตีน 0.6 กรัม / กิโลกรัมน้ำหนักตัวที่เหมาะสม

 

โปรตีนที่ได้รับควรเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ได้แก่ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไข่ขาว เป็นต้น อย่างน้อยร้อยละ 60❞

 

3.ไขมัน

ไขมันเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกายและให้พลังงานสูง ไขมันจากอาหารมีทั้งชนิดที่ดี เช่น ไขมันไม่อิ่มตัว (น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว) และไขมันที่ไม่ดี เช่น ไขมันอิ่มตัว (น้ำมันปาล์ม น้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว กะทิ ไขมันวัวหมูสามชั้น เนย ชีส) ถ้ารับประทานไขมันชนิดไม่ดีมากเกินจะทำให้เกิดโรคหลอดเลือด และหัวใจตามมาได้

อาหารไขมันสูงที่ควรหลีกเลี่ยง

น้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม กะทิ เนื้อสัตว์ติดมัน หมูสามชั้น หนังหมู หนังไก่ เครื่องในสัตว์ ไข่แดง ปลาหมึก ปู กุ้ง หอยนางรม เนย

 

4.โซเดียม

การควบคุมอาหารเค็มเป็นหัวใจสำคัญสำหรับผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรัง (เสื่อม) ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง หรือมีอาการบวม ควรจำกัดปริมาณโซเดียมน้อยกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เทคนิคการควบคุมอาหารเค็ม ได้แก่ ให้คนทำอาหารลดเค็มลงครึ่งนึง หลีกเลี่ยงการซื้ออาหารปรุงสำเร็จมารับประทาน ลดการเติมน้ำปลา ซีอิ๊ว เกลือ ลงไปในอาหารท่านสามารถเพิ่มรสเผ็ด หรือเปรี้ยวมาแทนรสเค็มที่หายไปไม่ควรใช้เกลือ ซีอิ๊ว น้ำปลา สูตรโซเดียมต่ำ เนื่องจากมีส่วนประกอบเป็นเกลือโปแตสเซียม ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้

 

5.โปแตสเซียม

แร่ธาตุที่สำคัญที่มีผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและหัวใจ เมื่อมีไตเสื่อมการขับโปแตสเซียมจะลดน้อยลงระดับโปแตสเซียมในเลือดควรน้อยกว่า 5 มิลลิโมลต่อลิตร ถ้าระดับโปแตสเซียมในเลือดสูงมากเกินไปอาจทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ หรือหยุดเต้นได้ ดังนั้นในผู้ป่วยที่มีไตเสื่อมระยะที่ 4 – 5 หรือระดับโปแตสเซียมในเลือดสูง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโปแตสเซียมสูง

 

6.ฟอสฟอรัส หรือฟอสเฟต

ฟอสฟอรัส เป็นแร่ธาตุที่สำคัญที่มีผลต่อความแข็งแรงของกระดูก ไตที่ปกติจะขับฟอสฟอรัสออกได้ แต่เมื่อมีไตเสื่อมการขับฟอสฟอรัสจะลดน้อยลง ทำให้ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูงขึ้น เมื่อระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูงขึ้น จะทำให้ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำลง และแคลเซียมถูกดึงออกมาจากกระดูกไม่แข็งแรง นอกจากนั้นฟอสฟอรัสจะจับกับแคลเซียมที่อยู่ในเลือด เกิดเป็นหินปูนอยู่ตามหลอดเลือดหัวใจ ข้อ ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจตามมา

ดังนั้นในผู้ป่วยที่มีไตเสื่อมระยะที่ 3 – 5 หรือ ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง

ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง

ได้แก่ นม นมเปรี้ยว โยเกิร์ต เนย คุกกี้ ขนมปัง ไอศกรีม กาแฟผง ถั่วลิสง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วต่างๆ เต้าหู้ นมถั่วเหลือง โอวัลติน ไมโล โกโก้ โคลา เป๊บซี่ กาแฟใส่นม เบียร์ น้ำแร่ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ข้าวโพด งา ทองหยิบ ทองหยอดไข่แดง เมล็ดพืช แมลงต่างๆ เป็นต้น

 

พบแพทย์เฉพาะทาง
ศูนย์อายุรกรรมโรคไต , ศูนย์ไตเทียม
ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ สาขาใกล้บ้านคุณ 

(คลิก link เพื่อนัดพับแพทย์เฉพาะทาง)

โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา  

โรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา  

โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์  

โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์  

โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ 

SHARE