โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังคืออะไร ? โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง (Ulcerative colitis) เป็นหนึ่งในกลุ่มโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory bowel disease) โดยพยาธิสภาพของโรคจะเกิดการอักเสบที่เยื่อบุผิวลำไส้ในบริเวณชั้นตื้นของลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง การอักเสบจะค่อย ๆ ลุกลามจนเยื่อบุลำไส้ใหญ่เกิดความเสียหายมากขึ้น เกิดเป็นแผล อาจมีเลือดออกหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆตามมาได้
สาเหตุของโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังเกิดจากอะไร ?
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดโรคที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆรวมกัน ดังนี้
- ปัจจัยทางพันธุกรรม
- เชื้อชาติ พบในคนยุโรปมากกว่าคนเอเชีย
- ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ผิดปกติ
- การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียในลำไส้
- อาหาร เช่น อาหารที่มีไขมันสูง คาเฟอีน แอลกอฮอล์
- การสูบบุหรี่
- ความเครียด
อาการของโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังเป็นอย่างไร ?
- ปวดท้อง
- ปวดทวารหนัก กลั้นถ่ายลำบาก
- ถ่ายเหลวเรื้อรัง ถ่ายเหลวรุนแรง
- ถ่ายเป็นมูกหรือเลือดสด
- มีไข้ อ่อนเพลีย
- ปวดข้อ
- น้ำหนักลด
- โลหิตจาง
- ตับอักเสบ
การวินิจฉัยโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังทำอย่างไร ?
แพทย์จะวินิจฉัยโรคจากอาการ ประวัติสุขภาพ การตรวจร่างกาย และการตรวจพิเศษเพิ่มเติมเพื่อช่วยการวินิจฉัย ดังนี้
- การตรวจเลือด เพื่อตรวจหาการติดเชื้อหรือการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกาย ตรวจหาภาวะโลหิตจาง และภาวะขาดสารอาหาร
- การตรวจอุจจาระ เพื่อตรวจดูเซลล์เม็ดเลือดในอุจจาระ ตรวจหาการติดเชื้อไวรัสหรือปรสิต
- การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) หรือการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ส่วนปลายและลำไส้ตรง (Flexible sigmoidoscopy) ร่วมกับการตรวจชิ้นเนื้อเพื่อช่วยยืนยันการวินิจฉัย
- การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) ช่องท้อง หรือการตรวจเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ช่องท้อง เพื่อช่วยการวินิจฉัยโรคและวางแผนการรักษา
การรักษาโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังทำอย่างไร ?
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคให้หายขาดได้ เป้าหมายในการรักษาคือการพยายามบรรเทาอาการของโรค ทำให้โรคอยู่ในระยะสงบ ไม่กลับมาเป็นซ้ำ และลดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
- การรักษาด้วยยา
- ยาต้านการอักเสบ ช่วยลดการอักเสบของเยื่อบุลำไส้ เช่น คอร์ติโคสเตียรอยด์ ซัลฟาซาลาซีน
- ยากดภูมิคุ้มกัน เพื่อกดระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายไม่ให้สร้างสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ เช่น อะซาไธโอพรีน เมโทรเทรกเสต กลุ่มยายับยั้งทีเอ็นเอฟ
- ยาปฏิชีวนะ เช่น เมโทรนิดาโซล ไซโปรฟลอกซาซิน
- ยาบรรเทาอาการ เช่น ยาแก้ปวดท้อง ยาบรรเทาอาการท้องเสีย
- ธาตุเหล็กและวิตามินบี12 ในผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจางและขาดวิตามินบี 12
- การใช้ยาต่างๆอาจมีผลข้างเคียง ผู้ป่วยจึงต้องใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- การผ่าตัด ใช้ในกรณีที่ใช้ยารักษาแล้วยังไม่สามารถควบคุมอาการได้ หรือมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังอาจมีอาการกำเริบเป็น ๆ หาย ๆ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และผู้ป่วยมีโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่สูงกว่าคนทั่วไป ผู้ป่วยจึงควรติดตามการรักษาต่อเนื่องและรับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่เป็นระยะเพื่อเฝ้าระวังการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
#โรงพยาบาลสินแพทย์รามอินทรา
#เบื้องหลังทุกการรักษาคือความใส่ใจ